“บิลลี่ ฮอลิเดย์” (Billie Holiday) เกิดในครอบครัวคนผิวดำผู้ยากจน พ่อแม่ยกเธอให้คนอื่นเลี้ยงดู เด็กหญิงถูกข่มขืนตอนอายุ 11 จากผู้ชายข้างบ้าน เธอถูกสังคมตัดสินว่าเป็นคนผิดและถูกส่งเข้าสถานสงเคราะห์ก่อนที่เธอจะหนีออกมาและเริ่มทำงานเป็นนางทางโทรศัพท์ตอนอายุ 12 เธอร้องเพลงครั้งแรกในซ่อง เธอเรียกตัวเองว่า “บิลลี่ ฮอลิเดย์” นักร้องเพลงแจ๊สผิวสีผู้คลุกคลีอยู่กับความยากจน ความรุนแรง และการเหยียดเชื้อชาติ เจ้าของเพลงดังแห่งศตวรรษอย่าง “Strange Fruit” (1939) “บิลลี่ ฮอลิเดย์” คือหนึ่งในนักร้องเสียงทรงพลังตลอดกาล เป็นที่ถกเถียงกันอยู่เสมอว่าเธอคือสาวผิวสีผู้เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจในโลกของคนผิวขาว ศิลปินผู้ถูกเหยียดหยามและติดยาเสพติดรุนแรง เมื่อเธอร้องเพลงต่อต้านการเหยียดผิวอย่าง “Strange Fruit” ทำให้เธอกลายเป็นศัตรูของรัฐ และเคยถูกลอบยิงจากกลุ่มผู้ต่อต้านคนผิวดำ เรื่องราวที่หลายคนไม่เคยได้รู้กำลังจะถูกเปิดเผยในสารคดีเรื่องนี้ ในปี 1971 นักข่าวชื่อ “ลินดา ลิปแน็ก คีล” (Linda Lipnack Kuehl) ได้ออกเดินทางเพื่อเขียนชีวประวัติในบั้นปลายชีวิตของบิลลี่ ซึ่งกว่า 8 ปีที่เธอตามล่าหาข้อมูลและบันทึกเทปสัมภาษณ์กว่า 200 ชั่วโมงจากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับนักร้องชื่อดังคนนี้ รวบรวมจากคำให้การที่ตรงไปตรงมาของพ่อแม่เลี้ยงของเธอ เพื่อนในโรงเรียน เพื่อนร่วมห้องขัง ทนายความ โปรดิวเซอร์ เพื่อนสนิท แมงดา และแม้แต่เจ้าหน้าที่ FBI ผู้จับกุม แต่หนังสือของลินดาไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และเทปก็ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนจนถึงตอนนี้ “Billie บิลลี่ ฮอลิเดย์ แจ๊ส เปลี่ยน โลก” จะฉายออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์สารคดีมีการผสมผสานระหว่างฟุตเทจภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง ซึ่งจะจับภาพความซับซ้อนของตำนานผ่านสายตาของผู้หญิงที่ความหลงรักในเสียงเพลงแจกจ่ายความรักให้ทุกคนแต่ไม่เคยได้รักนั้น